บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินมอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ได้ตีพิมพ์รายงานฉบับใหม่ที่ยืนยันว่าความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) บนอุปกรณ์จะจุดประกายให้เกิดการพลิกฟื้นของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน โดยปริมาณการฟื้นตัวจะเร็วที่สุดในปี 2024 และการวิเคราะห์ได้สวนทางกับคำเตือนเรื่องตลาดฮาร์ดแวร์มือถือที่ตกต่ำยืดเยื้อมาเป็นเวลานานเช่นเดียวกับตลาด PC

มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่าการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกจะฟื้นคืนเกือบ 4% ในปีหน้าและเพิ่มขึ้น 4.4% ในปี 2025 ถัดไป ธนาคารเพื่อการลงทุนเชื่อมั่นว่าฟีเจอร์เอดจ์ AI (Edge AI) ที่เกิดขึ้นใหม่ในโทรศัพท์จะเป็นแรงกระตุ้นให้เพิ่มกำลังซื้อใหม่ของผู้บริโภคหลังจากที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา

AI บนอุปกรณ์สามารถทำได้ตั้งแต่การถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์ (Computational Photography) ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นไปจนถึงระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Assistant) โดยไม่สูญเสียความเป็นส่วนตัว ด้วยความก้าวหน้าของฮาร์ดแวร์ที่จะรองรับแอปพลิเคชันโรบัสท์ (Robust Applications) มอร์แกน สแตนลีย์ มองเห็นคลื่นลูกใหม่ของนวัตกรรมที่จะดึงดูดผู้ใช้ให้อัปเกรดอุปกรณ์ของตนเพื่อเข้าถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยนี้

ตัวชี้วัดของกระแสนี้ในตอนต้นมีแนวโน้มเกิดขึ้นจากบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์สัญชาติจีนที่รวมชิป AI ที่เป็นกรรมสิทธิ์เข้าด้วยกัน ตัวอย่างเช่น X90 รุ่นใหม่ของ Vivo ที่มีการถ่ายภาพด้วย AI มียอดขายในประเทศพุ่งสูงขึ้นเหนือกว่ารุ่นชั้นนำที่ไม่มี AI ถึงหกเท่า เช่นเดียวกันกับ Xiaomi ที่ยอดขาย Xiaomi 13 พุ่งขึ้นเพราะมีการปรับปรุงเสริม AI

มอร์แกน สแตนลีย์ บอกเป็นนัยผ่านข้อมูลเหล่านี้ว่าผู้บริโภคมีความต้องการหรือความสนใจในความสามารถด้าน AI ที่ใช้งานได้จริงบนอุปกรณ์มากขึ้น นักวิเคราะห์จากบริษัทคาดการณ์ว่านักพัฒนาซอฟต์แวร์จะใช้ประโยชน์จากความนิยมของเอดจ์ AI ในการมอบประสบการณ์ที่มีประสิทธิภาพให้แก่ผู้ใช้มากขึ้น

สุดยอดแอพที่กระตุ้นให้เกิดการใช้ในวงกว้าง

ที่มา: Goldman Sachs

รายงานดังกล่าวไม่ได้อธิบายอย่างชัดเจนที่ว่า “สุดยอดแอพ” ใดที่จะกระตุ้นให้เทคโนโลยีเอดจ์ AI กลายเป็นกระแสทั่วโลก อย่างไรก็ตาม รายงานนี้ได้อ้างอิงถึงตัวอย่างในอดีต เช่น Internet Explorer และแอปโซเชียล/อีคอมเมิร์ซบนมือถือที่เกิดขึ้นเมื่อ 1 ถึง 2 ปีหลังจากเกิดเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางเทคโนโลยี

บนสมมติฐานนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ ได้เสนอข้อคิดเห็นว่า Copilot แชทบอทเอไอที่สามารถโต้ตอบได้ (Generative AI) จาก Microsoft (MSFT) เป็นตัวบ่งชี้ความก้าวหน้าครั้งสำคัญของเทคโนโลยี Edge AI เชื่อว่าการบูรณาการ Copilot เข้ากันกับ PC อย่างรอบด้าน ทำให้ AI บนอุปกรณ์เป็นที่ยอมรับและได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นจากสาธารณชน

หากผู้บริโภคสามารถนำเอดจ์ AI มาใช้งานจริง ถือเป็นการส่งสัญญาณโอกาสให้แก่นักพัฒนา ทำให้เกิดการขับเคลื่อนสร้างแอปพลิเคชันที่จะเข้ามาพลิกโฉมวงการ แต่ก็เป็นเรื่องท้าทายที่จะคาดการณ์ช่วงเวลาที่จะเกิดได้อย่างแน่นอน

อีกมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มของสมาร์ทโฟน

การคาดการณ์ในเชิงบวกของมอร์แกน สแตนลีย์ ได้สวนทางกับการคาดการณ์ในเชิงลบของการหดตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดฮาร์ดแวร์มือถือ นักวิจารณ์ได้ชี้ให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันกับตลาด PC เช่น ความอิ่มตัวของตลาดและวงจรการซื้อเครื่องใหม่ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผล แม้ว่าจะมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์แล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก MS ยืนกรานว่าสมาร์ทโฟนยังคงมีความแตกต่างทางด้านประโยชน์ใช้สอยที่ได้รับการขับเคลื่อนโดย AI เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความคล่องตัว และความก้าวหน้าของแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนที่ได้ชิงส่วนแบ่งจากตลาดจาก PC ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2011 โดยมุ่งเน้นไปที่ปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้นแทนที่จะเป็นการใช้งานเพื่อทดแทนในทันที

เว้นแต่หากมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Augmented Reality ที่จะเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง มอร์แกน สแตนลีย์ มองว่าสมาร์ทโฟนยังคงถูกใช้งานอย่างต่อเนื่องในการตอบสนองต่อความต้องการด้านการผลิตและความบันเทิงในแต่ละวันของผู้ใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับอิทธิพลจากเอดจ์ AI ด้วยเหตุนี้ รูปแบบในอดีตอาจทำนายแนวโน้มในอนาคตของสมาร์ทโฟนได้อย่างแม่นยำ

การประเมินผลกระทบของ AI บนอุปกรณ์

มอร์แกน สแตนลีย์ มองว่า AI บนอุปกรณ์จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมทั่วทั้งภาคส่วน เพราะเทคโนโลยีจะช่วยชุบชีวิตใหม่ให้แก่ตลาดสมาร์ทโฟนด้วยการสนับสนุนให้ผู้ใช้ทำการอัปเกรดอุปกรณ์ของตน และ AI บนอุปกรณ์จะเป็นนวัตกรรมสำคัญที่จะปลดล็อกความสามารถใหม่ ๆ นอกเหนือไปจากของเดิมที่มีอยู่

หากเอดจ์ AI กลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญและได้รับความนิยม นี่อาจนำไปสู่ความต้องการในอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีนี้เพิ่มมากขึ้น นักพัฒนาจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างแอปพลิเคชัน AI ที่น่าสนใจและผู้ผลิตอุปกรณ์ชั้นนำจะต้องทำการอัปเกรดฮาร์ดแวร์ของตนให้ทรงพลังมากยิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการใช้แอปพลิเคชัน AI ขั้นสูงเหล่านี้ได้

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้นและความสามารถในการทำกำไรยังไม่แน่นอน ตลาดที่มีผู้ใช้หลายพันล้านคนและความล่าช้าในการเข้าถึงทั่วทุกภาคส่วนเป็นปัจจัยในการชะลอการอัปเกรดเว้นเสียว่าจะมีแอปพลิเคชันที่น่าสนใจจนไม่อาจต้านทานได้เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้ การมองโลกในแง่ดีของ มอร์แกน สแตนลีย์ จึงไม่อาจรับประกันผลลัพธ์แม้ว่าจะมีประเด็นที่ดูมีแนวโน้มไปในทางบวกก็ตาม

สำหรับบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ เอดจ์ AI จะช่วยมอบโอกาสในการสร้างความแตกต่างทางด้านเทคนิคและคุณสมบัติให้แก่ผลิตภัณฑ์ของตน ความสำเร็จของความแตกต่างนี้จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการพัฒนาซอฟต์แวร์นวัตกรรมเสริมที่จะสามารถดึงดูดผู้ใช้จำนวนมากในวงกว้าง